ธรรมชาติ | คอลัมน์ | อเมซิ่งไอจิ ญี่ปุ่น

อเมซิ่งไอจิ ญี่ปุ่น

ธรรมชาติ

4 ฤดูกาลของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยสีสัน! ค้นพบธรรมชาติและดอกไม้แห่งจังหวัดไอจิ

PREV

/

NEXT

  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ
  • ธรรมชาติ

PREV

NEXT

/

  • Nagoya Castle: Spring Festival
  • Nagoya Castle: Spring Festival
  • Okazaki: Cherry Blossom Festival
  • Okazaki: Cherry Blossom Festival
  • Iwakura Gojo River: Cherry Blossom Festival
  • Iwakura Gojo River: Cherry Blossom Festival
  • Irago Nanohana Garden: Atsumi Peninsula Nanohana Festival
  • Irago Nanohana Garden: Atsumi Peninsula Nanohana Festival
  • Irago Nanohana Garden: Atsumi Peninsula Nanohana Festival
  • Sightseeing Farm Hana Hiroba
  • Sightseeing Farm Hana Hiroba
  • Korankei Maple Festival
  • Korankei Maple Festival
  • Korankei Maple Festival
  • Higashiyama Zoo and Botanical Gardens: Maple Hunting
  • Higashiyama Zoo and Botanical Gardens: Maple Hunting
  • Obara Shikizakura Festival
  • Obara Shikizakura Festival
  • Obara Shikizakura Festival
  • Obara Shikizakura Festival
  • Sobue Ginkgo Yellow Leaves Festival
  • Sobue Ginkgo Yellow Leaves Festival
  • Sobue Ginkgo Yellow Leaves Festival
  • Sobue Ginkgo Yellow Leaves Festival
  • Yotsuya's Senmaida
  • Yotsuya's Senmaida
  • Yotsuya's Senmaida
  • Mt. Chausu Plateau
  • Mt. Chausu Plateau

เพิ่มเติม

สารบัญ

สัมผัส 4 ฤดูกาลของประเทศญี่ปุ่น

หมู่เกาะญี่ปุ่นซึ่งทอดยาวจากเหนือจรดใต้กว่า 3,500 กิโลเมตร มีสภาพภูมิอากาศที่หลากหลายในแต่ละภูมิภาค ประเทศนี้มี 4 ฤดูกาลหลัก ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว
จากข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิจะอยู่ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ขณะที่ฤดูร้อนจะกินเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ฤดูใบไม้ร่วงในเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน และตามด้วยฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์

แม้ว่าหลายประเทศทั่วโลกจะมี 4 ฤดูกาลเช่นกัน แต่ชาวญี่ปุ่นกลับมีความผูกพันเป็นพิเศษกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน พวกเขาถ่ายทอดอารมณ์ผ่านบทเพลงที่แสดงถึงฤดูกาลแต่ละฤดู ชื่นชมความงามของดอกไม้ที่เบ่งบาน และผสมผสานฤดูกาลเข้ากับอาหารแบบดั้งเดิมไปจนถึงกิจวัตรประจำวัน ทำให้ความละเอียดอ่อนในการสัมผัสและโอบรับฤดูกาลทั้งสี่นี้กลายเป็นมุมมองอันล้ำค่าของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในประวัติศาสตร์เสมอมา

ไอจิ ขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติอันงดงาม

จังหวัดไอจิที่ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศญี่ปุ่น มีสภาพอากาศที่น่ารื่นรมย์ตลอดทั้งปี ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดที่มีทั้งคาบสมุทรที่ทอดยาวลงสู่ทะเล แม่น้ำที่คดเคี้ยวตัดผ่านที่ราบอันกว้างใหญ่ และเทือกเขาที่ทอดยาวราวกับหลังคาสูงต่ำลดหลั่นกันไป ล้วนมีส่วนสำคัญต่อสภาพภูมิอากาศและภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้การจะบรรยายเสน่ห์อันล้นเหลือของจังหวัดไอจิด้วยคำเพียงไม่กี่คำนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะจังหวัดนี้จะมอบประสบการณ์แตกต่างกันมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือที่ตั้งที่ใกล้กับทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทร ภูเขา และแม่น้ำ ซึ่งล้วนเดินทางไปถึงได้อย่างง่ายดายจากนาโกย่า

แหล่งท่องเที่ยวอันน่าประทับใจและมีชื่อเสียงในไอจิมีมากมายอย่างเช่น โครันเคซึ่งเป็นหุบเขาอันงดงามที่ประดับประดาด้วยใบไม้เปลี่ยนสีสีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วง ส่วนโอบาระก็มีชื่อเสียงจาก "ชิกิซากุระ" หรือซากุระที่บานสะพรั่งทั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่มอบทัศนียภาพอันน่าทึ่ง และนาข้าวขั้นบันไดยทสึยะเซ็นไมดะที่อยู่บนเชิงเขาก็เผยให้เห็นทัศนียภาพของนาข้าวขั้นบันไดอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ จากสถานที่ต่างๆ มากมายที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับความงดงามของฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป

ฤดูใบไม้ผลิ

เมื่อความหนาวเย็นของฤดูหนาวเริ่มหายไปและอุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้น ฤดูใบไม้ผลิก็กลับมาเยือนญี่ปุ่นอีกครั้ง ความรู้สึกเกี่ยวกับการเริ่มต้นของฤดูกาลนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยบางคนสัมผัสถึงการเบ่งบานของดอกบ๊วยและดอกซากุระ ในขณะที่บางคนได้ยินเสียงนกน้อยบินกลับมาจากการอพยพ แต่ไม่ว่าจะสัมผัสสัญญาณใดก็ตาม ฤดูใบไม้ผลิก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่ที่บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของฤดูหนาวอันโหดร้ายและยาวนาน นอกจากนี้ เดือนมีนาคมยังเป็นฤดูกาลแห่งการสำเร็จการศึกษาซึ่งนักศึกษาต่างกล่าวอำลาสถาบันการศึกษาของตน ในทางกลับกัน เดือนเมษายนก็เป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลเข้าเรียนหรือทำงาน ด้วยความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาแห่งการพบปะสังสรรค์กันอีกครั้งและการอำลา

ซากุระ — ปราสาทนาโกย่า: เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (เมืองนาโกย่า)

ช่วงเวลา: กลางมีนาคม ถึงต้นพฤษภาคม
(ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกซากุระ: ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน)


ปราสาทนาโกย่าเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลตลอดทั้งปี แต่ไม่มีเทศกาลใดที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากไปกว่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูดอกซากุระบาน ภายในปราสาทจะมีชีวิตชีวาด้วยต้นซากุระราว 1,000 ต้น ที่มอบทัศนียภาพอันงดงามของดอกซากุระสายพันธุ์ยอดนิยมของญี่ปุ่น อย่างโซเมโยชิโนะและชิดาเระซากุระ ท่ามกลางดอกซากุระที่บานสะพรั่งภายในปราสาท ท่านสามารถชม "จิโออิโคะ" ซากุระพันธุ์พื้นเมืองหายากของญี่ปุ่นซึ่งโดดเด่นด้วยสีเขียว โดยสามารถชมดอกซากุระพันธุ์พิเศษนี้ได้ที่บริเวณใกล้กับร้านน้ำชานิโนะมารุและภายในสวนนิโนะมารุตะวันออก ซากุระที่เริ่มต้นด้วยสีเขียวอ่อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมม่วงสดใส และจะบานสะพรั่งเพียงชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น อย่าพลาดโอกาสในการชื่นชมความงามอันโดดเด่นของดอกซากุระเหล่านี้
เมื่อเข้าสู่ยามพลบค่ำ ดอกซากุระที่ประดับประดาด้วยไฟจะสร้างทัศนียภาพอันน่าหลงใหล พร้อมกับปราสาทนาโกย่าที่ตั้งตระหง่านอย่างภาคภูมิท่ามกลางดอกซากุระโยซากุระอันงดงาม ทัศนียภาพอันตระการตาจนแทบจะหยุดหายใจนี้ช่างน่าหลงใหลและหาชมได้ยาก ซึ่งรับรองว่าจะต้องประทับใจแก่ผู้ชมไม่รู้ลืม สำหรับผู้ที่ต้องการภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ โปรดลองสำรวจที่สวนด้านในซึ่งเป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพดอกซากุระคู่กับหอคอยปราสาทหลักอันสง่างาม
เทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ปราสาทนาโกย่าไม่ได้มีเพียงแค่ทัศนียภาพอันงดงามเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายตลอดช่วงเทศกาล ทั้งนิทรรศการพิเศษที่เปิดให้ชมเป็นการทั่วไปซึ่งจัดแสดงสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งคงไว้นับตั้งแต่การก่อสร้างปราสาท นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงของเหล่าขุนพลและนินจาในชุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุคสงครามกลางเมือง ซึ่งช่วยเพิ่มกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ให้กับเทศกาลด้วย

ซากุระ — โอคาซากิ: เทศกาลดอกซากุระ (เมืองโอคาซากิ)

ช่วงเวลา: ปลายมีนาคม ถึงต้นเมษายน

ปราสาทโอคาซากิ บ้านเกิดของโทคุกาวะ อิเอะยะสุ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง ในทุกฤดูใบไม้ผลิ บริเวณปราสาทจะมีชีวิตชีวาด้วยความงดงามสดใสของต้นซากุระโซเมโยชิโนะราว 800 ต้น ซึ่งขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดในภูมิภาคโทไค ภาพของดอกซากุระที่บานสะพรั่งผสมผสานอย่างลงตัวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบปราสาท ก่อให้เกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ดึงดูดผู้มาเยือนจากทั่วสารทิศ

ซากุระ — แม่น้ำโกโจ อิวะคุระ: เทศกาลดอกซากุระ (เมืองอิวะคุระ)

ช่วงเวลา: ปลายมีนาคม ถึงต้นเมษายน

แม่น้ำโกโจในเมืองอิวาคุระเป็นสถานที่งดงามที่ขึ้นชื่อเรื่องดอกซากุระอันน่าทึ่ง ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น โดยริมฝั่งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยสีสันอันสดใสของต้นซากุระราว 1,400 ต้นที่ทอดยาวตลอดระยะทาง 7.6 กิโลเมตร ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมายังสถานที่นี้เพื่อเพลิดเพลินกับการเดินเล่นสบายๆ ใต้ต้นซากุระที่บานสะพรั่งในเส้นทางสีชมพูอันงดงามตระการตา นอกจากความงดงามตามธรรมชาติของดอกซากุระแล้ว เทศกาลดอกซากุระอิวาคุระยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมายที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และประเพณีของภูมิภาค

หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจคือการสาธิตเทคนิคดั้งเดิมที่เรียกว่า “นมโบริอะระอิ” ซึ่งจัดขึ้นในแม่น้ำ โดยเทคนิคนี้เป็นการล้างกาวที่ใช้กับธงรูปปลาคาร์ฟย้อมสีที่เรียกว่า “โคอิโนะโบะริ” ภายหลังจากกระบวนการย้อมเสร็จสิ้น การที่แม่น้ำกลายเป็นจุดศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรมนี้ ยิ่งช่วยสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับเทศกาล
อีกหนึ่งไฮไลต์ของเทศกาลคือขบวนแห่รถแห่ดะชิของท้องถิ่น โดยรถแห่พิเศษที่มีล้อทำจากท่อนซุงจะถูกแห่ไปรอบเมืองตลอดช่วงเทศกาล และชุมชนท้องถิ่นต่างร่วมมือกันเคลื่อนรถแห่ดะชิเหล่านี้ด้วยความพยายามร่วมกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและจิตวิญญาณของภูมิภาค

นาโนะฮานะ — อิราโกะ นาโนะฮานะ การ์เด้น: คาบสมุทรอัตสึมิ (เมืองทาฮาระ)

ช่วงเวลา: กลางมกราคม ถึงปลายมีนาคม

ตั้งแต่กลางมกราคมไปจนถึงปลายมีนาคม ทั้งคาบสมุทรอัตสึมิจะถูกปกคลุมไปด้วยสีเหลืองอร่ามของดอกนาโนะฮานะ (ดอกเรพซีด) กว่า 10 ล้านดอก โดยมีอิราโกะ นาโนะฮานะ การ์เด้น เป็นสถานที่หลักในการจัดเทศกาลนาโนะฮานะแห่งคาบสมุทรอัตสึมิที่มีดอกเรพซีดกว่า 2 ล้านดอกให้ได้ชม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามเส้นทางท่ามกลางดอกเรพซีดบานสะพรั่ง รวมถึงค้นหาเส้นทางในเขาวงกต และปีนขึ้นเนินเขา เพื่อดื่มด่ำไปกับบรรยากาศทิวทัศน์สีเหลืองอร่ามกว้างใหญ่ในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ ยังมีชิงช้านาโนะฮานะ บลังโค่ ที่เป็นจุดสำหรับถ่ายภาพที่ระลึกท่ามกลางทิวทัศน์อันสดใส ซึ่งประกอบไปด้วยชิงช้าที่ประดับประดาด้วยดอกเรพซีด ตัดกับฉากหลังเป็นต้นปาล์มและท้องฟ้าใสสีคราม

ฤดูร้อน

ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อากาศจะร้อนขึ้นพร้อมกับแสงแดดที่ส่องสว่างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปลายมิถุนายนถึงกลางกรกฎาคม ทั้งประเทศจะเข้าสู่ฤดูมรสุมหรือที่รู้จักกันในชื่อ "ทสึยุ" ในภาษาญี่ปุ่น และเมื่อฤดูมรสุมสิ้นสุดลง ฤดูร้อนที่แท้จริงก็จะเริ่มต้นขึ้นในอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส นอกจากความร้อนแล้ว ฤดูร้อนของญี่ปุ่นยังมีความชื้นสูง ซึ่งอาจทำให้เหงื่อออกมาก ดังนั้น การดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฤดูนี้
ฤดูร้อนในญี่ปุ่นจะมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานมากมาย เช่น เทศกาลฤดูร้อน การแสดงดอกไม้ไฟ การว่ายน้ำ และการตั้งแคมป์ นอกจากนี้ เนื่องจากโรงเรียนในญี่ปุ่นมีวันหยุดฤดูร้อนราว 40 วัน ตั้งแต่ปลายกรกฎาคมไปจนถึงปลายสิงหาคม ผู้คนจำนวนมากจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำกิจกรรมต่างๆ และใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด

ทานตะวัน — ฟาร์มสำหรับการท่องเที่ยว ฮานะ ฮิโรบะ (เมืองมินามิชิตะ)

ฮานะ ฮิโรบะ ในเมืองมินามิชิตะอันอบอุ่น เป็นฟาร์มสำหรับการท่องเที่ยวที่งดงามและขึ้นชื่อในเรื่องดอกไม้ตามฤดูกาล ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นดอกป๊อปปี้ ไฮเดรนเยีย คอสมอส และดอกไม้อื่นๆ อีกมากมาย จากดอกไม้หลากชนิดเหล่านี้ ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างโดดเด่นในหมู่นักท่องเที่ยว
ที่ฟาร์มฮานะ ฮิโรบะ การปลูกดอกทานตะวันจะสลับกันเป็น 12 รอบ เพื่อให้ช่วงเวลาการบานสะพรั่งยาวนาน โดยตั้งแต่ปลายมิถุนายนถึงต้นธันวาคม ดอกทานตะวันประมาณ 140,000 ดอกจะแต่งแต้มสีสันให้ฟาร์มกลายเป็นพรมสีเหลืองสดใส ด้วยทิวทัศน์อันงดงามที่ทั้งโรแมนติกและน่าทึ่งนี้ ทำให้ที่นี่เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการขอแต่งงานและการถ่ายภาพงานแต่งงาน
นอกจากดอกทานตะวันแล้ว ฮานะ ฮิโรบะ ยังมีดอกแพรเซี่ยงไฮ้สีชมพูอ่อนสวยงามในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเก็บดอกไม้จากฟาร์มได้สูงสุดคนละ 10 ดอก เพื่อนำกลับบ้านได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าเข้าชม

ฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อความร้อนในฤดูร้อนค่อยๆ ลดลง ก็จะเข้าสู่ฤดูที่อากาศอบอุ่นขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูตอนต้นเดือนกันยายนที่เรียกว่า "ซันโช" ซึ่งแปลว่า "ความร้อนที่ยังคงอยู่" ด้วยอุณหภูมิและความชื้นที่เริ่มลดลงนี้ทำให้บรรยากาศน่ารื่นรมย์ขึ้น และชาวญี่ปุ่นจะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงโดยเปลี่ยนจากเสื้อแขนสั้นเป็นเสื้อแขนยาว
เมื่อถามถึงความสำคัญของฤดูกาลนี้ ชาวญี่ปุ่นหลายคนจะพูดถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงทันที ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีหรือที่รู้จักกันในชื่อ "โคโย" แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีชีวิตชีวาของต้นไม้ผลัดใบ โดยใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และส้ม ก่อนที่จะร่วงหล่นในที่สุด ชาวญี่ปุ่นจึงมีประเพณีที่จะออกไปค้นหาและชื่นชมจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามเพื่อทำกิจกรรมที่เรียกว่า "โมมิจิการิ" ซึ่งแปลว่า "การล่าใบไม้เปลี่ยนสี" ทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่เกิดจากใบไม้สีสันสดใสจะดึงดูดผู้คนมากมายที่ปรารถนาที่จะสัมผัสความงดงามอย่างเต็มที่
ฤดูใบไม้ร่วงยังถูกเรียกว่า "ฤดูใบไม้ร่วงแห่งความอยากอาหาร" และยังเป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตรสเลิศในญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยผลผลิตสดใหม่มากมาย ผู้คนจึงเพลิดเพลินไปกับรสชาติอันน่ารับประทานและความสุขจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูใบไม้ร่วง

ใบไม้เปลี่ยนสี — เทศกาลเมเปิ้ลหุบเขาโครันเค (เมืองโทโยตะ)

โครันเคเป็นที่รู้จักจากใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในญี่ปุ่น วัดที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้โดดเด่นด้วยต้นเมเปิ้ล 11 สายพันธุ์ ราว 4,000 ต้น โดยต้นเมเปิ้ลเหล่านี้เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำและทั่วบริเวณวัด แต่งแต้มสีสันอันสดใสให้กับทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของสะพานไทเก็ตสึเคียวสีแดงสดและอุโมงค์เมเปิ้ลอันน่าหลงใหล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของหุบเขาอันงดงาม นอกจากนี้ การสำรวจถนนสายเก่าของเมืองพักแรมริมแม่น้ำอาสึเกะที่ชวนให้หวนนึกถึงอดีตจะยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศอันน่าจดจำให้กับบริเวณนี้ยิ่งขึ้น

ใบไม้เปลี่ยนสี — สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ฮิกาชิยามะ: ล่าใบเมเปิ้ล (เมืองนาโกย่า)

ช่วงเวลา: กลางพฤศจิกายน ถึงต้นธันวาคม

สวนพฤกษศาสตร์ฮิกาชิยามะซึ่งมีชื่อเสียงจากใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในตัวเมือง ป่าธรรมชาติบนเนินเขาที่ล้อมรอบสวนถูกแต่งแต้มด้วยต้นไม้ใบกว้างอันสวยงามกว่า 500 ต้น รวมถึงต้นเมเปิ้ลแดงญี่ปุ่น ที่รังสรรค์สีสันอันงดงามแห่งฤดูใบไม้ร่วง สวนแห่งนี้ยังมีการประดับไฟที่สวยงามตระการตาตลอดฤดูซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศอันน่าหลงใหล นอกจากนี้ เรือนกระจกและสวนสไตล์ตะวันตกซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญก็ได้รับการประดับไฟเพื่อสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นชวนให้นึกถึงยุคแรกเริ่มของสวนอีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่น สระโอคุอิเคะและบ้านสไตล์กัชโชแบบดั้งเดิมจะมอบทิวทัศน์ที่งดงาม โดยบ้านสไตล์กัชโชนี้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากหมู่บ้านชิราคาวะในจังหวัดกิฟุ และพร้อมมอบทัศนียภาพอันงดงามคู่กับภาพสะท้อนของต้นเมเปิ้ลบนผิวน้ำ

ใบไม้เปลี่ยนสีและชิคิซากุระ — เทศกาลชิคิซากุระโอบาระ (เมืองโทโยตะ)

ช่วงเวลา: กลางถึงปลายพฤศจิกายน

ชิคิซากุระ ดอกซากุระสายพันธุ์พิเศษ มอบความงดงามที่หาชมได้ยากจากการบานสะพรั่งปีละ 2 ครั้ง แม้ว่าดอกซากุระส่วนใหญ่จะบานเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ แต่ต้นชิคิซากุระในพื้นที่โอบาระกลับบานสะพรั่งอีกครั้งตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว ด้วยชิคิซากุระกว่า 10,000 ต้นทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันน่าทึ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ซึ่งปกติแล้วดอกซากุระจะเริ่มบานในเดือนตุลาคม แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมความงดงามคือเดือนพฤศจิกายน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ต้นไม้โดยรอบจะเผยสีสันอันสดใสของฤดูใบไม้ร่วงผสมผสานระหว่างดอกซากุระฤดูใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วง และจะมีการจัดเทศกาลชิคิซากุระขึ้นทั่วพื้นที่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เฉลิมฉลองและดื่มด่ำกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์นี้

แปะก๊วย — เทศกาลใบแปะก๊วยเหลืองโซะบุเอะ (เมืองอินาซาวะ)

ณ บริเวณโซะบุเอะ เมืองอินาซาวะ ท่านจะได้พบกับต้นแปะก๊วยกว่า 10,000 ต้นที่ผลิตแปะก๊วยอันเลื่องชื่อและอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีวิวทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามอลังการจากต้นแปะก๊วยสีทองอร่ามและจุดชมวิวตระการตา เทศกาลใบแปะก๊วยเหลืองโซะบุเอะจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ภายในงานมีกิจกรรมมากมายรวมถึงการประดับไฟยามค่ำคืนอันน่าหลงใหล ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของเมืองในรอบปี โดยสถานที่จัดงานหลักคือที่สวนโซะบุเอะกินนัน ซึ่งขึ้นชื่อจากต้นแปะก๊วยสายพันธุ์หลัก 4 สายพันธุ์ และตลาด "มาเช่" (Marché) ตลาดนัดประจำเดือน

ฤดูหนาว

ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดลงอย่างฮวบฮาบจนทำให้อากาศหนาวเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด ที่พื้นที่ภูเขาของจังหวัดไอจิจะมีหิมะตกหนัก ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเล่นสกีที่ลานสกีของที่ราบสูงชาอุสึและทำกิจกรรมกีฬาฤดูหนาว
ช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงเวลายอดนิยมสำหรับการเพลิดเพลินกับอาหารหม้อไฟนาเบะอุ่นๆ แสนอร่อย ซึ่งหาทานได้ตามบ้านเรือนและร้านอาหารหลายแห่ง เมนูต่างๆ เช่น โยเซะนาเบะ จังโคะนาเบะ สุกี้ยากี้ และโทนิวนาเบะ มักจำหน่ายเป็นเมนูประจำฤดูกาลนี้

ทิวทัศน์หิมะ — นาข้าวขั้นบันไดยทสึยะเซ็นไมดะ (เมืองชินชิโระ)

นาข้าวขั้นบันไดยทสึยะเซ็นไมดะเป็นนาข้าวขั้นบันไดที่อยู่บนเนินเขาคุระคะเคะ นาข้าวนี้ได้รับการอนุรักษ์โดยฟาร์มราว 20 แห่งมายาวนานกว่า 400 ปี
นาข้าวมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 220 เมตร ไปจนถึง 420 เมตร โดยสร้างขึ้นจากหินที่เรียงซ้อนกัน และก่อให้เกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมนาข้าวคือช่วงต้นฤดูร้อน ภายหลังเริ่มปลูกข้าวในเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม และต้นถึงกลางเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่รวงข้าวสุกงอมพร้อมเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ นาข้าวยังงดงามตระการตาเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะอีกด้วย

ดวงดาวในฤดูหนาว — ที่ราบสูงภูเขาชาอุสึ (หมู่บ้านโทโยเนะ)

ที่ราบสูงภูเขาชาอุสึเป็นจุดท่องเที่ยวที่สูงที่สุดในจังหวัดไอจิ โดยมีทัศนียภาพอันงดงามของท้องฟ้ายามค่ำคืน ด้วยมลภาวะทางแสงในระดับต่ำและระยะห่างจากเขตที่อยู่อาศัย ทำให้ท้องฟ้าใสเป็นพิเศษ และสามารถมองเห็นดวงดาวสว่าง 6 แมกนิจูดได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งนับเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ท้องฟ้าจำลองตามธรรมชาติ และดื่มด่ำกับความงดงามของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

แนะนำ

/

PAGETOP